เปรียบเทียบ สลิง Lifeline (Sling) VS เชือก Lifeline (Rope)

by admin

ในการทำงานบนที่สูง หนึ่งในอุปกรณ์ที่ขาดไม่ได้คือระบบกันตกหรือ Fall Protection System โดยเฉพาะ "Lifeline" ซึ่งมีหน้าที่หลักในการรองรับแรงตก และช่วยจำกัดระยะการตกของผู้ปฏิบัติงาน ในตลาดอุตสาหกรรมมีการเลือกใช้ Lifeline อยู่ 2 ประเภทหลัก ได้แก่ Lifeline สลิง (Sling) และ Lifeline เชือก (Rope) ซึ่งแต่ละแบบมีข้อดี-ข้อจำกัดแตกต่างกันตามลักษณะงานและสภาพแวดล้อม บทความนี้จะเปรียบเทียบทั้งสองประเภทเพื่อให้ผู้ประกอบการหรือเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยสามารถเลือกใช้งานได้อย่างเหมาะสม

ในการทำงานบนที่สูง หนึ่งในอุปกรณ์ที่ขาดไม่ได้คือระบบกันตกหรือ Fall Protection System โดยเฉพาะ “Lifeline” ซึ่งมีหน้าที่หลักในการรองรับแรงตก และช่วยจำกัดระยะการตกของผู้ปฏิบัติงาน ในตลาดอุตสาหกรรมมีการเลือกใช้ Lifeline อยู่ 2 ประเภทหลัก ได้แก่ Lifeline สลิง (Sling) และ Lifeline เชือก (Rope) ซึ่งแต่ละแบบมีข้อดี-ข้อจำกัดแตกต่างกันตามลักษณะงานและสภาพแวดล้อม บทความนี้จะเปรียบเทียบทั้งสองประเภทเพื่อให้ผู้ประกอบการหรือเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยสามารถเลือกใช้งานได้อย่างเหมาะสม

1. วัสดุและโครงสร้าง

Lifeline สลิง (Sling Lifeline)
โดยทั่วไปผลิตจาก สลิงเหล็กกล้าเคลือบสังกะสี (galvanized steel wire rope) หรือ สแตนเลส มีความแข็งแรงทนทานสูงต่อแรงดึงและการขูดขีด มักมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 8–12 mm และสามารถรองรับน้ำหนักได้หลายพันกิโลกรัม โครงสร้างถักแบบ 6×19 หรือ 7×19 ใช้กันอย่างแพร่หลายในงานที่ต้องการความทนทานสูง เช่น งานโครงสร้างเหล็ก งานติดตั้งถาวรบนหลังคาหรือโครงสร้างคอนกรีต

Lifeline เชือก (Rope Lifeline)
มักทำจากวัสดุ ไนลอน (Nylon) หรือ โพลีเอสเตอร์ (Polyester) แบบถักเปลือกนอก (kernmantle rope) ซึ่งมีแกนรับแรงด้านใน และเปลือกนอกกันเสียดสี เชือกนิรภัยที่ใช้ในระบบกันตกมักมีเส้นผ่านศูนย์กลาง 10.5–12 mm และผ่านมาตรฐานเช่น EN 1891 (Static rope) สำหรับเชือกสถิต หรือ EN 892 สำหรับเชือกไดนามิก

2. ความแข็งแรงและความยืดหยุ่น

สลิง lifeline กับ เชือก lifeline

3. ความเหมาะสมในการใช้งาน

Lifeline สลิง เหมาะสำหรับ:

  • งานติดตั้งถาวร (Permanent Lifeline) เช่น บนหลังคาโรงงาน, โครงสร้างอาคาร
  • งานที่มีความเสี่ยงด้านสภาพอากาศ หรือสารเคมี (ในกรณีใช้สลิงสแตนเลส)
  • สภาพแวดล้อมที่มีโอกาสขูดขีดหรือกระแทกบ่อย

Lifeline เชือก เหมาะสำหรับ:

  • งานชั่วคราว เช่น งานซ่อมแซม, ติดตั้งไฟฟ้า, งานบนเสาสูง
  • งานที่ต้องการเคลื่อนย้ายอุปกรณ์บ่อย เช่น Rope Access
  • กู้ภัยในพื้นที่จำกัด (Confined Space Rescue)

4. อายุการใช้งานและการตรวจสอบ

  • สลิง มีอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่า โดยเฉพาะหากติดตั้งถาวรและไม่มีสนิมกัดกร่อน อย่างไรก็ตามการตรวจสอบรอยขาดและการสึกหรอจำเป็นต้องใช้ความชำนาญ
  • เชือก มีอายุการใช้งานสั้นกว่า โดยเฉลี่ย 5-10 ปี ขึ้นอยู่กับความถี่ในการใช้งานและการเก็บรักษา แต่การตรวจสอบทำได้ง่ายกว่า เช่น การหาส่วนที่บวมหรือเปลือกฉีก

5. มาตรฐานที่เกี่ยวข้อง

  • สลิง: มาตรฐาน EN 795:2012 Type C (Horizontal Lifeline System)
  • เชือก: EN 1891 (Static rope), EN 353-2 (Guided type fall arrester including a flexible anchor line)

สรุปข้อเปรียบเทียบ

สรุปข้อเปรียบเทียบ

บริษัท เซฟสิริ (ประเทศไทย) จำกัด

สาขา 00001

98/16 อาคารA ชั้น 3 ห้องเลขที่ A3-(E2-E6) หมู่ 18 ถ.เชียงราก ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี 12120

ห้าง ทียู โดม พลาซ่า ม.ธรรมศาสตร์ รังสิต (ชั้น3)

เพิ่มเพื่อน

บทความ

@2025 – All Right Reserved. Designed and Developed by Prolifeline