ทำไมโรงงาน และ ไซต์งานควรมีระบบ Lifeline?

by admin

ในอุตสาหกรรมการก่อสร้าง การผลิต และงานซ่อมบำรุงต่างๆ ความปลอดภัยในการทำงานบนที่สูงถือเป็นเรื่องสำคัญอันดับต้นๆ เพราะอุบัติเหตุจากการตกจากที่สูงยังคงเป็นหนึ่งในสาเหตุหลักของการเสียชีวิตและบาดเจ็บสาหัสในสถานประกอบการ ระบบ Lifeline จึงกลายเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ช่วยลดความเสี่ยงดังกล่าว และเพิ่มมาตรฐานความปลอดภัยในโรงงานและไซต์งานอย่างมีประสิทธิภาพ

Lifeline คืออะไร?

Lifeline คือระบบช่วยชีวิตที่ออกแบบมาเพื่อรองรับและป้องกันผู้ปฏิบัติงานจากการตกจากที่สูง โดยทั่วไปจะใช้ร่วมกับเข็มขัดนิรภัย (Full Body Harness) และอุปกรณ์กันตก (Fall Arrest Devices) ซึ่งระบบ Lifeline มีทั้งแบบแนวนอน (Horizontal Lifeline) และแนวตั้ง (Vertical Lifeline) รวมถึงชนิดคงที่และชนิดเลื่อนได้ตามลักษณะการใช้งาน

เหตุผลหลักที่โรงงานและไซต์งานควรมีระบบ Lifeline

1. ลดอุบัติเหตุจากการตกจากที่สูง

สถิติจากหลายประเทศชี้ให้เห็นว่าการตกจากที่สูงเป็นสาเหตุสำคัญของการเสียชีวิตในที่ทำงาน ระบบ Lifeline จึงเป็นมาตรการเชิงรุกที่ช่วยป้องกันไม่ให้เกิดเหตุรุนแรง โดยเฉพาะในงานบนหลังคา โครงสร้างเหล็ก งานติดตั้งระบบไฟฟ้า หรือการซ่อมบำรุงอาคารสูง

2. สอดคล้องกับกฎหมายและมาตรฐานความปลอดภัย

กฎหมายความปลอดภัยแรงงานของหลายประเทศ รวมถึงประเทศไทย กำหนดให้สถานประกอบการมีมาตรการป้องกันอันตรายจากการทำงานบนที่สูง ซึ่งการติดตั้งระบบ Lifeline อย่างถูกต้องตามมาตรฐาน เช่น EN 795, ANSI Z359 หรือ OSHA ถือเป็นการปฏิบัติตามข้อกำหนด และลดความเสี่ยงในการถูกดำเนินคดีหรือสั่งปิดกิจการ

3. สร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยในองค์กร

เมื่อโรงงานหรือไซต์งานให้ความสำคัญกับการติดตั้งอุปกรณ์นิรภัยอย่าง Lifeline แสดงให้เห็นถึงความใส่ใจในความปลอดภัยของพนักงาน ส่งผลให้เกิดวัฒนธรรมองค์กรที่เน้นความปลอดภัยเป็นหลัก พนักงานจะรู้สึกมั่นใจในการทำงาน และลดความกลัวต่ออันตรายจากที่สูง

4. เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน

เมื่อลดความเสี่ยงจากอุบัติเหตุ พนักงานสามารถปฏิบัติงานได้อย่างมั่นใจและมีสมาธิ ส่งผลให้ประสิทธิภาพในการทำงานดีขึ้น ลดการหยุดงานเนื่องจากอุบัติเหตุ และช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลหรือค่าชดเชยต่างๆ

5. ป้องกันความเสียหายต่อชื่อเสียงและค่าใช้จ่ายระยะยาว

อุบัติเหตุแรงงานที่ร้ายแรงอาจสร้างผลกระทบต่อชื่อเสียงองค์กร รวมถึงค่าปรับ ค่าดำเนินคดี และค่าเสียโอกาสทางธุรกิจ การลงทุนในระบบ Lifeline เป็นการวางแผนระยะยาวที่คุ้มค่า เพราะช่วยลดต้นทุนแฝงเหล่านี้ได้อย่างชัดเจน

ตัวอย่างพื้นที่ที่ควรติดตั้ง Lifeline

  • พื้นที่ทำงานบนหลังคาอาคาร โรงงาน หรือโกดัง
  • พื้นที่เดินบนโครงสร้างเหล็ก เช่น คาน สะพานเครน
  • งานติดตั้งหรือบำรุงรักษาระบบไฟฟ้า บนเสาสูง
  • การทำงานในแท็งก์หรือพื้นที่ที่มีความลาดชัน
  • งานบนเวทีหรือทางเดินแคบๆ บนที่สูงในโรงงานผลิต

ข้อควรพิจารณาในการเลือกติดตั้งระบบ Lifeline

ลักษณะงานและสภาพแวดล้อม: ควรเลือกใช้ Lifeline ที่เหมาะสมกับรูปแบบการทำงาน เช่น แนวนอน แนวตั้ง หรือชนิดพกพา
มาตรฐานที่ได้รับการรับรอง: ตรวจสอบว่าอุปกรณ์ Lifeline และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องได้รับการรับรองมาตรฐานสากล
การอบรมและทดสอบการใช้งาน: ผู้ปฏิบัติงานต้องได้รับการฝึกอบรมการใช้ระบบอย่างถูกวิธี เพื่อให้สามารถใช้งานได้อย่างปลอดภัย
การบำรุงรักษาและตรวจสอบสม่ำเสมอ: ระบบ Lifeline ต้องมีการตรวจสอบและบำรุงรักษาอย่างสม่ำเสมอโดยผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้มั่นใจว่าอุปกรณ์ยังสามารถใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพ

You may also like

บริษัท เซฟสิริ (ประเทศไทย) จำกัด

สาขา 00001

98/16 อาคารA ชั้น 3 ห้องเลขที่ A3-(E2-E6) หมู่ 18 ถ.เชียงราก ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี 12120

ห้าง ทียู โดม พลาซ่า ม.ธรรมศาสตร์ รังสิต (ชั้น3)

เพิ่มเพื่อน

บทความ

@2025 – All Right Reserved. Designed and Developed by Prolifeline